Swimming rama - ข้าวพระรามลงสรง


สมัยผมยังเด็กนั้น(หลายสิบปี ดูแก่ขึ้นมาทันที) ทุกครั้งที่ไปเยาวราชคุณพ่อคุณแม่จะพาไปกินซาแต่ปึ่ง(ภาษาจีนแต้จิ๋ว) ซึ่งผมก็มักจะชื่นชอบจนกระทั่งร้านนั้นปิดและย้ายไป พอโตขึ้นมาจึงไม่ค่อยได้มีโอกาสทาน จนกระทั่งคุณพ่อพบร้านใหม่และพาไปทาน ทุกครั้งที่ผ่านคุณพ่อมักจะมีข้ออ้างไปทานเสมอ ผมเลยจุดประกายว่าทำไมไม่ลองทำเองละ สูตรใน internet เดี่ยวนี้มีมากมายจึงได้ลองหาและทำมาสามถึงสี่ครั้ง จนรสชาติถูกปาก และคุณพ่อก็มักจะเตรียมทานเสมอเมื่อรู้ว่าผมทำ

ส่วนประกอบ สำหรับ 3 ท่าน
ส่วนของน้ำสะเต๊ะราด
1.พริกแกง 3 ช้อนชา
2.กะทิ 200 มิลลิลิตร
3.ซีอี้ว 1 ช้อนชา
4.น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
5.ถั่วลิสงคั่ว ทุบให้ละเอียด 1ครึ่ง ช้อนโต๊ะ
6. น้ำตาล 3 ช้อนชา
7. น้ำเปล่าต้มสุก ครึ่งถ้วย

เครื่องหลัก
8.หมูสันนอกหมัก 1-2 ขีด
9. ผักบุ้ง 1 กำ
10. น้ำพริกเผา 3 ช้อนชา
11. ข้าว 3 จาน

วิธีการทำ
ส่วนของน้ำสะเต๊ะราด
1.เทน้ำมันลงใส่หม้อรอให้น้ำมันร้อน
2.ใส่พริกแกงคั่วให้สุก
3.ใส่น้ำกะทิ กวนจนพริกแกงนั้นเข้ากัน จากนั้นรอจนกะทิแตกมัน
4. ใส่น้ำเปล่าคนจนน้ำราดนั้นเข้ากัน
5. ใส่ถั่วลิสงคั่ว กวนให้เข้ากัน
6. ใส่ซีอี้ว และน้ำตาลคนจนน้ำเริ่มข้น ปิดเตาแล้วทำส่วนของเครื่องหลัก

ส่วนของเครื่องหลัก
7. ต้มน้ำให้เดือดใส่เกลือเล็กน้อย ลวกผักบุ้งและลวกหมู
8. ตักข้าว ใส่ผักบุ้ง และหมู ราดด้วยน้ำสะเต๊ะ ใส่น้ำพริกเผาพร้อมเสริฟ

ลองทำดูนะครับ รสชาติจะหวาน มัน อร่อย ทานตอนร้อนๆจะอร่อยมาก

cooking2cu

Healthy Sandwich


หากพูดถึงคำว่า Sandwich แล้วอาจคิดไปถึงหาการฝรั่งที่มีผัก มีเนื้อแต่แซนวิชเมนูนี้เป็นเมนูที่แถวที่ทำงานของผมทำขายซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการประยุกต์ที่ลงตัว ครั้งแรกที่ผมเห็นแล้วยังสงสัยว่าแบบนี้จะขายได้หรือ เพราะแตกต่างจาก Sandwich ทั่วๆไป เมนูนี้ปราศจากเนื้อสัตว์ แต่อุดมไปด้วยโปรตีนจากถั่วแทน ผมขอเรียกว่า Healthy sandwich

ส่วนประกอบ

1. ถั่วแดง ลูกเดือยต้มสุก 2 ช้อน (สามารถใช้ถั่วประเภทอื่น และปรับเปลี่ยนปริมาณได้)
2. มายองเนส 1/2 ช้อนชา (ปริมาณสามารถเปลี่ยนได้ตามความชอบ)
3. ขนมปังโฮลวีท

วิธีการทำ
1. นำถั่วแดงและลูกเดือยต้มสุกผสมกับมายองเนสให้ทั่ว

2. ปิ้งขนมปังให้ร้อนหอมอร่อย
3. ทาลงบนขนมปัง
4. ใช้มีดหั่นครึ่งนึง จะทำให้เห็นไส้ดูน่าทาน

ได้เมนูง่ายๆแล้วครับ เร็วไหมเมนูง่ายจริงๆ ซึ่งต้องบอกว่าหากอยากให้กินแบบคลีนกว่านี้ก็ไม่ต้องใส่มายองเนสก็ได้ครับ ปกติผมก็ทานแบบเพียวๆ เมนูนี้ทำใส่กล่อง ziplock ติดตัวไปทานยามหิวได้เลย

cooking2cu

Spicy rotini pasta


ฟังชื่อเมนูแล้วอาจจะแปลกๆ สำหรับคนไทยส่วนใหญ่(รวมทั้งผม) คำว่าพาสต้าก็คิดว่าเหมือนกับสปาเกตตี้แต่จริงๆแล้วชาวตะวันตกนั้นเรียกต่างกันซึ่ง Rotini นั้นก็เป็นเส้น Pasta ประเภทหนึ่งของลักษณะจะเป็นเกลียว ดูแปลกตาซึ่งเส้น Rotini นี้คุณแม่ผมไปซื้อมาจากงานเพลินจิตแฟร์ ผมจึงหยิบขึ้นมาทำเป็น Rotini Pasta ขี้เมาแบบไทยๆ ละกัน

ส่วนประกอบ
1. เส้น Roini 1/4 ห่อ (สำหรับ 2 ท่าน)
2. เนื้อหมูสับ 1-2 ขีด แล้วแต่ความชอบทาน
3. เห็ดหอม 3-4 หัว ถ้าเป็นเห็ดหอมแห้ง ให้แช่น้ำให้บวมก่อน
4. พริกชี้ฟ้า 3-4 เม็ด ถ้าชอบทานเผ็ดก็เพิ่มได้
5. แครอทซอยเป็นส้นยาว 2 กรัม
6. ข้าวโพดฝักอ่อน 5 ชิ้น
7. เม็ดพริกไทยสด
8. น้ำมันมะกอก ถ้าไม่มีใช้น้ำมันถั่วเหลืองแทน
9. ใบกะเพรา 5 ต้น
10. ซีอี้ว 1 ช้อนโต๊ะ

ส่วนเครื่องหมักหมู
1. กระเทียม  2 กลีบ
2. ลูกผักชี 10 ลูก
3. เม็ดพริกไทยดำอบแห้ง 10  ลูก
4. น้ำตาล ครึ่งช้อนชา

วิธีการทำ
1. นำส่วนเครื่องหมักหมูมาโขลกในครกให้ละเอียดจากนั้นใส่ลงไปในหมูสดคลุกให้ทั่วนำเข้าตู้เย็นเพื่อรักษาความสด
ขั้นตอนนี้จะทำให้หมูนั้นมีความหอมอร่อย แต่ถ้าหากไม่มีเครื่องหมักก็ไม่จำเป็นต้องหมักก็ได้

2. ลวกเส้น Rotini ใช้เวลาประมาณ 20 นาที เริ่มจากการต้มน้ำจนเดือดและใส่เส้นลงไป จากนั้นหรี่ไฟให้อ่อนลงทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที เตรียมน้ำเย็นโดยใส่น้ำแข็งหล่อไว้ จากนั้นลองชิมเส้น Rotini หากสุกทั่วแล้วนำลงน้ำเย็นทันที เพื่อให้เกิดความเหนียวอร่อยและไม่ให้เส้นบวม (หากไม่มีน้ำแข็งหล่อเย็นใช้น้ำธรรมดาก็ได้เช่นกัน)

3. นำเส้น Rotini ขึ้นคลุกกับน้ำมันมะกอกเล็กน้อยเพื่อให้เส้นมีความมันและไม่ติดกัน
4. นำหมูออกจากตู้เย็น คลายเย็นสักพัก
5. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันมะกอก รอน้ำมันร้อนใส่เห็ดหอมผัดจนเห็ดหอมสุก จากนั้นจึงนำหมูสับใส่ลงไปผัดจนสุก หากแห้งมากให้ใส่น้ำสต๊อก หรือน้ำเปล่า
6. ใส่แครอทและข้าวโพดฝักอ่อนผัดจนสุก ใส่ซีอี้ว
7. ใส่พริกชี้ฟ้า พริกไทยดำ ผัดต่อซักพักแล้วจึงใส่ใบกะเพรา
8. หรี่ไฟลงให้อ่อน จากนั้นนำเส้น Roini คลุกให้ทั่วซัก 2 นาทีและปิดไฟ จากนั้นยกเสริฟได้



เสร็จแล้วครับ เมนู Rotini pasta ผัดขี้เมาง่ายใช้ไหมครับ เครื่องปรุงก็ใช้ของไทยๆ แถมไม่เลี่ยนด้วย ทานได้เรื่อยๆไม่เบื่อเลยครับ

cooking2cu

Healthy BanaOat Cookie


เปิดเมนูแรกที่แสนง่ายกับการทำคุ้กกี้ ขนมที่สามารถใช้ทานยามว่างได้มีความอร่อยมีประโยชน์แต่สูตรทั่วไปนั้นก็อุดมไปด้วยแป้ง ไขมัน น้ำตาลแต่สำหรับเมนูนี้ผมขอเสนอ คุ้กกี้สุขภาพดีปราศจากการใส่น้ำมัน น้ำตาลเลย เรียกได้ว่าได้สารอาหารจากธรรมชาติล้วนๆ

ส่วนผสม
  1. กล้วย
  2. ข้าวโอ๊ต
  3. ถั่วคั่ว หรือ งา หรือ ช๊อกโกแลตชิพ(หรือไม่มีก็ได้)
วิธีการทำ
1. นำกล้วยมาบดให้ละเอียดโดยใช้ส้อม หากเป็นกล้วยน้ำว้าก็ใช้ปริมาณไม่มากลองกะๆดู

2. ผสมข้าวโอ๊ตลงไปและคลุกให้ทั่วจนเริ่มเป็นก้อน
3. ปั้นเป็นก้อนตามขนาดที่ต้องการวางลงบนถาดอบ(ทาน้ำมันที่ถาดได้ เพื่อแกะคุ้กกี้ได้ง่าย)
4. โรยถั่ว หรือ งา หรือช๊อกโกแลตชิพ ตามที่ต้องการ แนะนำให้ทำให้แบนๆ
5. นำเข้าอบไฟบนล่าง ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
ด้านหน้าของคุ้กกี้นั้นจะแห้งขึ้นเรื่อยๆ ส่วนด้านล่างก็จะแห้งเช่นเดียวกัน ระหว่างทำลองชิมดูหากภายใน cookie นั้นยังเปียกๆ ก็อบเพิ่มต่อได้



เรียบร้อยแล้วครับ คุ๊กกี้สุขภาพสำหรับพกติดตัวไปทานที่ไหนก็ได้ ไม่มีน้ำตาลไม่มีไขมัน ไม่มีสารปรุงแต่ง ได้คุณค่าจากกล้วยและข้าวโอ๊ตครับ

Clip Video





cooking2cu

เรียนทำอาหารกัน Let's learn cooking

ระหว่างที่นั่งเล่น internet ที่บ้านก็เห็น facebook ของน้องที่รู้จักคนหนึ่ง น้องคนนี้เป็นสาวค่อนข้างห้าวเป็นพิเศษและมักจะชอบเขียนเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน วันหนึ่งผมเจอรูปอาหารก็ลองไปอ่านก็พบว่าน้องทำอาหารเอง และอีกสองสามวันก็พบกับรูปการแกะสลักผัก เมื่อได้คุยกับน้องเค้าก็รู้มากว่าน้องกำลังเรียนอยู่ที่สถาบันชื่อดังแห่งหนึ่ง เลยจุดประกายให้อยากเรียนด้วย

แต่ด้วยเวลาของผมนั้นมีไม่มาก เพราะมีทั้งงานประจำและมีงานเสริม กิจกรรมมากมายจึงอยากจะลองหาที่เรียนที่ไม่แพง และเรียนแค่เสาร์อาทิตย์ ระยะเวลาสั้นๆ เมื่อ search ไปเรื่อยก็พบ ศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมพินี

ว่าแล้วก็ส่ง message ถามและไปสมัครเลย


การเดินทางนั้นไม่ยาก สามารถขับรถไปหรือนั่งรถเมล์ BTS, MRT ไปได้ครับ พอไปถึงสวนลุมก็สามารถเดินไปศูนย์อาชีพกรุงเทพมหานคร

สถานที่แห่งนี้มีเรียนอะไรบ้างลองมาชมกัน (สามารถ click ดูได้ )



สัมผัสแรกที่ถึงสถานที่ศูนย์ฝึกอาชีพ
ผู้คนมากมายยืนทำอาหาร จัดดอกไม้ ตัดผม ตัดเสื้อผ้า ซ่อมคอมพิวเตอร์ ซึ่งดูแล้วน่าสนุกมาก โต๊ะเล็กๆมีเจ้าหน้าที่ยืนรับลงทะเบียน





เอกสารที่ต้องใช้
  • สำเนาบัตรประชาชน 1 ฉบับ
  • รูปหนึ่งนิ้ว 2 ใบ

ค่าใช้จ่าย 0 บาท (ฟรี)

สำหรับอาหารคาวนั้นเวลาเรียนไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม จากที่สังเกตุคือทำแล้วขายได้เลยครับ
ส่วนการเรียนวิชาอื่นๆ หากมีค่าอุปกรณ์ส่วนตัวอาจจะต้องนำมาเองหรือซื้อ
ใช้เวลาสมัครได้อย่างรวดเร็วใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ก็จะได้บัตรประจำตัวมา

เมื่อสมัครแล้วผมก็ลองเดินดูเล่นก็มีผู้คนมาเรียนกันมากมาย ตั้งใจกันอย่างสุด ๆ

ที่เหลือก็รอเวลาเรียน

cooking2cu

Cooking Greet




ขอต้อนรับเข้าสู่ Cooking2cu กับเรื่องเกี่ยวกับอาหารหลังจากที่ได้ทำอาหารทานเอง ใส่ปิ่นโตไปทานที่ทำงาน เช้า กลางวัน เย็น ทำอาหารต่อเนื่องและเริ่มรู้สึกสนุก จึงมองหาโอกาสที่จะเรียนรู้อย่างจริงจัง และหวังว่าจะได้แบ่งปันความรู้ด้านการทำอาหาร ความบันเทิง ไม่มากก็น้อยให้กับผู้อ่าน

Cooking 2cu